……เรื่องเล่าของหลวงปู่
คุณแม่ชีแก้ว
เสียงล้ำ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ได้นิมิตว่าตัวเองได้เหาะขึ้นไปคลอดลูกบนอากาศ
แต่ไม่เหมือนกับที่ชาวโลกเขา
คลอดลูก
ไม่มีเลือดไม่มียาง ไม่สกปรก เป็นลูกผู้ชาย ผิวพรรณเหลืองดั่งทองคำ
มีรัศมีออกโดยรอบขณะ
อยู่ในท้องแม่ก็ใสเหมือนกับมองเข้าไปในแก้ว
คลอดออกมาแล้วก็ลุกกราบได้ทันที พร้อมกับ บอกชื่อว่า“ท้าวธรรมกถึก”
คุณแม่ถามว่า
“ทำไมจึงอยากเกิด” ได้รับคำตอบว่า
“จะลงมาบำเพ็ญบารมี
จึงมาขอเกิดกับคุณแม่ก่อน ไม่ประสงค์จะเกิดในครรภ์ของมนุษย์ ขอเป็นลูกของคุณแม่”
ขณะพูดคุยกันอยู่นั้น
พระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งก็มารับทารกทองคำนั้นไปเลี้ยงไว้
ต่อไปภายหน้าเด็กคนนี้คงต้องได้บวชและอยู่
รับใช้ใกล้ชิดท่าน
คุณแม่ชีแก้ว
เสียงล้ำพยากรณ์ไว้ โดยบอกถึงชื่อพ่อ-แม่ ของเด็กทารกคนนั้น
และติดตามถามข่าวว่าพ่อ-แม่ ของเด็กได้
ลูกชายจริงไหม
และยังบอกอีกว่า เด็กจะอยู่ได้เพียง 3 วัน แล้วจะมีผู้มาแทน
เหตุการณ์ตามนิมิตก็เป็นจริงทุกอย่าง
คือเมื่อเด็กทารกคลอดแล้ว ก็ร้องอุแว้เกือบตลอดทั้ง 3
วัน จนเย็นวันที่ 3 ก็สลบไป
พ่อ-แม่
และญาติของทารกก็ว่าวันนี้เย็นค่ำมืดแล้ว
พรุ่งนี้ค่อยเอาไปฝัง
จากนั้นได้เอาผ้าหุ้มห่อเด็กเอาไว้
พอรุ่งอรุณวันใหม่
ซึ่งเป็นความหวังครั้งสุดท้ายของผุ้เป็นพ่อ-แม่
ผู้เป็นแม่ก็บีบน้ำนมจากเต้านมใส่ช้อนแล้วใช้สำลีชุบ
น้ำนมค่อย
ๆ แตะที่ริมฝีปากของทารก และน้ำนมได้ซึมไหลเข้าสู่ปากลงสู่ลำคอ จนที่สุด
ทารกก็ขยับปากขยับคอได้
จึงรู้ ว่ายังไม่ตาย
เมื่อครบกำหนดวันออกไฟแล้ว
พ่อ-แม่ ของเด็กรีบพาเด็กไปกราบคุณแม่ทันที คุณแม่พูดว่า
“ไม่ต้องเอามาให้แม่หรอก
เขามาหาก่อนที่จะไปอยู่กับพวกเธอแล้ว เลี้ยงเขาให้ดี เขามาอาศัยร่างที่ได้จากโยม
จึงนับว่า
เป็นลูกของโยม
ต่อไปภายหน้าเขาจะได้บวชค้ำชูพระพุทธศาสนา
นิมิตเทพบุตรมาขอเป็นลูก
…นิมิตที่เป็นจริงของคุณแม่อีกเรื่องหนึ่งก็คือ
เรื่องที่เทพบุตรตนหนึ่งจะจุติมาเกิดเพื่อสร้างบุญบารมีในบวรพระพุทธศาสนา
สืบธรรมไว้
โดยคุณแม่เล่าว่า
“ก่อนที่จะมาเกิด
เทพบุตรตนนั้นได้ลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาเสาะหาที่เกิด
คือเสาะหาผู้จะได้เป็นพ่อเป็นแม่ ชาติ
ตระกูลและลำดับการเป็นลูก
แต่เป็นเพราะบุญเก่าส่งผลให้ จึงได้มาพบปะกันตอนที่อยู่ภูเก้า”
จนที่สุดผู้เป็นแม่ตั้งท้องได้
6 เดือน
พระอินทราธิราชผู้เป็นหัวหน้าเทวดาอยู่บนสวรรค์พร้อมเทวดาหมู่มาก พากันนำ
เทพบุตรตนนั้นมาถวาย
วันที่หมู่เทวดาเอามาส่งนั้น มีแสงสว่างไสวทั่วไปหมดในแถบถิ่นนั้น
แต่รู้ได้เฉพาะคุณแม่กับคุณ
แม่แดง
(แม่ชีมะแง้ ผิวขำ) แต่คุณแม่แดงท่านไม่ได้พูดให้ฟัง
ในตอนหลังจึงได้พูดกับพระอาจารย์ผู้ใหญ่
ท่านจึงว่า
“สามเณรรูปนี้ได้เห็นตั้งแต่ลงมาเสาะหาที่เกิด
จึงได้ชวนให้มาเกิดกับ........”
วันนั้นเทพบุตรลงมาแล้วก็บอกว่า
“จะมาขอเป็นลูกของคุณแม่ชี” คุณแม่ก็บอกว่า
แม่บวชแล้วไม่อาจที่จะให้ใครมาเกิด
ด้วยได้
หากจะเกิดก็ให้ไปเกิดเข้าครรภ์ของนาง..............ภรรยาของนาย.............ให้เฝ้าครรภ์เอาไว้
เกิดกับสามีภรรยาคู่นี้
แหละ
ต่อไปภายหน้าก็จะได้บวชในพระพุทธศาสนาตามประสงค์
ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็เป็นชาวไร่ชาวนา
ก็พอที่จะส่งเสียให้เรียนหนังสือพออ่านออกเขียนได้
ถ้าหากถือเอาพ่อ-แม่คู่นี้เป็นที่
เกิด
เกิดมาในตอนนี้ก็จะดีมาก เพราะเป็นลูกที่เกิดกลาง ๆ
เกิดมาแล้วพ่อแม่จะไม่ห่วงหาอาลัยนัก เพราะคนแถบถิ่นนี้
เขารักและห่วงอาลัยลูกคนแรกและคนสุดท้ายเท่านั้น
หากจะเกิดกับสามีภรรยาคู่นี้ก็จะได้เป็นลูกคนกลางกอปรกับต้นตระกูลของเขา
ก็ฝักใฝ่สนใจใส่ใจ
ในพระพุทธศาสนา
จัดเป็นตระกูลสัมมาทิฐิ
เทพบุตรตนนั้นก็ว่า
“จะรับรองได้อย่างไรว่า
เมื่อเติบโตพอที่จะบรรพชาอุปสมบทแล้วจะได้บรรพชาอุปสมบทตาม
ประสงค์”
คุณแม่ก็ว่า
“แล้วแต่บุพกรรมของท่านเอง” เมื่อได้สนทนาตกลงตัดสินใจกันแล้วพระอินทราธิราช
ผู้เป็นหัวหน้าเทวดา
ทั้งหลายก็กลับสวรรค์ไป
เหลือแต่เทพบุตรผู้จะถือกำเนิดในครรภ์มนุษย์ต่อไป
หลายวันต่อมาคุณแม่จึงเรียกสามีภรรยามาพูดคุยให้ฟังตามเรื่องราวที่ปรากฏในนิมิตและออกปากขอทารก
สามีภรรยาคู่นั่นก็ตกลงถวายให้เป็นลูกของคุณแม่ตั้งแต่บัดนั้น
เมื่อครบกำหนดคลอดได้คลอดออกมาเป็นเด็กผู้ชาย
รูปร่างหน้าตาอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์
พ่อของเด็กได้มากราบเรียนคุณแม่ทราบ
คุณแม่บอกว่าให้ตั้งชื่อว่า อินทร์ถวาย ปัจจุบันได้อุปสมบทในบวร
พระพุทธศาสนา
สมความประสงค์และเป็นลูกศิษย์องค์สำคัญมากรูปหนึ่ง
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี
………….เอามาจากไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น